วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของ ... 'องุ่น'

ประโยชน์ขององุ่น
            น้ำตาลที่ได้จากองุ่น เป็นน้ำตาลที่สามารถดูดซึมได้เร็ว จึงทำให้รู้สึกสดชื่นและให้พลังงานได้เร็ว และยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในคนไข้ได้ แต่ไม่เหมาะกับคนไข้ที่มีอาการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นโรคเก๊าท์
            การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงกำลัง แก้อาการกระหายน้ำ และคนที่มีร่างกายผอมแห้งแรงน้อย ไร้เรี่ยวแรง แก่ก่อนวัย หากรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยส่งเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆ แข็งแรงขึ้นมาได้

            องุ่นมีหลายสี แต่ละสีคุณประโยชน์ก็ย่อมแตกต่างกันไป 

            ประโยชน์ขององุ่นเขียว องุ่นชนิดนี้นิยมนำมารับประทานสดๆ เป็นองุ่นที่มีความหวาน มีเนื้อมาก เมล็ดมีขนาดเล็ก รสชาติดี และราคาไม่แพง องุ่นเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น คาเทชิน (Catechin) และ เทอโรสติลบีน (Petrostilbene) ที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคของระบบประสาท โรคอัลไซเมอร์ โรคหลอดเลือดหัวใจ ลูคีเมีย และช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและเชื้อราต่าง ๆ

            ประโยชน์ขององุ่นแดง องุ่นแดงก็มีรสชาติที่ดีเช่นเดียวกัน องุ่นแดงมีสารอาหารสำคัญ คือ เรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง ทำลายพิษของสารก่อมะเร็ง และช่วยชะลอวัย และยังมีสารซาโปนิน (Saponin) ซึ่งเป็นสารช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ และยังช่วยต้านแบคทีเรียไวรัส ป้องกันเนื้องอกได้ด้วย[4] นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย, มีสารโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ที่เป็นตัวลดระดับไขมันเลว (LDL) และช่วยต้านอนุมูลอิสระ, มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่ช่วยชะลอความแก่ ควบคุมการทำงานของระบบประสาท เพิ่มการไหลเวียนเลือด ขยายหลอดเลือด บำรุงสายตา และป้องกันการอักเสบของร่างกาย, มีวิตามินซีที่มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค, มีวิตามินบี12 ที่ช่วยในการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ควบคุมการทำงานของระบบประสาท และสร้างเม็ดเลือดแดง, มีแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง เป็นต้น

            ประโยชน์ขององุ่นดำ ชนิดนี้ผลจะมีขนาดเล็กกว่าชนิดอื่น ซึ่งนิยมเอามาทำเป็นไวน์องุ่น (ไวน์องุ่นทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี) สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มีคำแนะนำว่าให้รับประทานองุ่นดำวันละ 1 ครั้ง เพราะองุ่นดำอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและมีแคลอรี่ต่ำ ช่วยทำให้การทำงานของไส้เป็นไปอย่างปกติ และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในองุ่นดำที่ช่วยในการขับท็อกซินออกจากร่าง จึงช่วยให้กระบวนการลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้องุ่นดำยังมีประโยชน์ในการช่วยการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ ช่วยเพิ่มการสร้างเกล็ดเลือดและเพิ่มการผลิตไนตริกออกไซด์เพื่อช่วยปกป้องเส้นเลือดแดง และช่วยต่อต้านความเครียด
            นอกจากนี้ผลและน้ำองุ่นสดยังมีส่วนช่วยบำรุงผิวหน้าและเส้นผมได้ด้วย อย่างสูตรบำรุงเส้นผมก็ให้ใช้น้ำองุ่นแดงหรือม่วงคั้นสดประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับแชมพูสระผม โดยพักไว้หลังสระ 5 นาที แล้วจึงล้างฟองออกให้สะอาด วิธีนี้จะช่วยทำให้เส้นผมนุ่มและเงางามได้ ส่วนสูตรบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่งชุ่มชื่นไม่แห้งกร้านก็ทำได้ไม่ยาก โดยให้นำองุ่นแดงหรือม่วงทั้งเปลือก 1 ถ้วย ผสมกับน้ำแตงกวาสด 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งอีก 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปปั่นรวมกัน เสร็จแล้วนำมาทาให้ทั่วผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออก
องุ่นสามารถนำไปแปรรูปเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น น้ำองุ่น เหล้าองุ่น ไวน์องุ่น องุ่นดอง แยมองุ่น เยลลี่องุ่น องุ่นอบแห้ง ลูกเกด น้ำมันเมล็ดองุ่นใช้ผสมในโลชั่น ทำสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ส่วนเปลือกผงนำมาใช้ทำสี เป็นต้น
            หมายเหตุ : คุณประโยชน์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่เปลือกและเมล็ดมากกว่าเนื้อในผลองุ่น ส่วนประโยชน์ของ Grape seed extract (GSE) คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น


สรรพคุณขององุ่น

            1.         ผลมีรสหวาน เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอ ม้าม และไต ใช้เป็นบำรุงโลหิต
            2.         ผลมีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง ให้ใช้ผลองุ่นแห้งและโสม อย่างละ 3 กรัม นำมาแช่ในเหล้าประมาณ 1 คืน แล้วนำมาทาบริเวณฝ่ามือและแผ่นหลัง
            3.         ช่วยลดความดันโลหิตสูง
            4.         ช่วยลดไขมันในเลือด ด้วยการใช้เมล็ดองุ่นนำมาบดให้เป็นผงแห้ง บรรจุแคปซูลกิน 1-2 เม็ด เช้าและเย็น
            5.         ผลมีสรรพคุณช่วยต้านมะเร็ง
            6.         ผลนำมาคั้นเอาน้ำรับประทาน จะช่วยแก้อาการหงุดหงิดได้
            7.         ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ แก้เหงื่อออกไม่รู้ตัว เหงื่อออกเนื่องจากหัวใจไม่ปกติ
            8.         ผลมีสรรพคุณเป็นยาแก้เลือดน้อย โลหิตจาง
            9.         เถาและใบมีรสชุ่มฝาด สุขุม มีสรรพคุณเป็นยาแก้ตาแดง
            10.       ช่วยแก้อาการไอ ไอเรื้อรัง
            11.       ใช้รักษาอาการอาเจียนเป็นเลือด ด้วยการใช้รากองุ่นสด รากหญ้าคา รากไวเช่า รากบัวหลวง ใบสนแผง (สนหางสิงห์) และดอกแต้ฮวย อย่างละ 15 กรัม และเนื้อสัตว์นำมาต้มกับน้ำกิน
            12.       ผลสดนำมาคั้นเอาน้ำรับประทานแก้กระหายน้ำ หรือใช้ผลสดนำมาคั้นเอาน้ำ แล้วใช้ภาชนะที่ปั้นด้วยดินเผา เคี่ยวผสมน้ำผึ้งเล็กน้อย เก็บไว้กินทีละน้อย

            13.       น้ำมันที่ได้จากเมล็ดเมื่อนำมากินก่อนหรือพร้อมอาหาร จะสามารถลดกรดที่มีมากเกินไปในกระเพาะอาหารได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น